นวัตกรรม ‘ยกกระชับผิว ลดเซลลูไลท์’
- เทคโนโลยี CORE TM ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Channeling Optimized bipolar RF Energy) และระบบสูญกาศ (Vacuum)
 - ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย และ U.S. FDA
 
Viora Reaction (เลือกอ่านได้)
- CORE TM technology
 - Vacuum Therapy
 - Viora reaction มี applicator ให้เลือก 3 ชนิด
 - ข้อดีของ Viora reaction
 - Viora reaction เหมาะสำหรับ
 - ขั้นตอนการทำ Viora Reaction
 - ระยะเวลาและความถี่ในการทำ Viora Reaction
 - ผลลัพธ์หลังการทำ Viora Reaction
 - การดูแลหลังทำ Viora Reaction
 - ข้อห้ามในการทำ Viora Reaction
 - ผลข้างเคียงของการทำ Viora Reaction
 
CORE TM technology
ส่งผ่านคลื่นความถี่วิทยุที่มีความถี่ต่างกัน 3 ความถี่ ตั้งแต่ 0.8–2.45 MHz เพื่อให้ลงลึกสุ่ชั้นผิวที่แตกต่างกัน ส่งผลให้มีการสะสมความร้อนของผิวชั้นบนจนถึงผิวชั้นลึก (42-47 C)
			รูปภาพจาก Vioramed.com
ความถี่ 0.8 MHz ลงลึกประมาณ 7.2 mm
ความถี่ 1.7 MHz ลงลึกประมาณ 5.1 mm
ความถี่ 2.45 MHz ลงลึกประมาณ 3.9 mm
โดยความร้อนจาก RF ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวตึงกระชับขึ้น และเพิ่มการเผาผลาญไขมันใต้ผิว ทำให้เซลล์ไขมันลดขนาดลง
Vacuum therapy
ระบบสุญญากาศกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองใต้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษา ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจน สารอาหารและของเสียของเซลล์ไขมันเพิ่มขึ้น
Viora reaction มี applicator ให้เลือก 3 ชนิด
- B–contour / BC (RF+Vaccum) ใช้สำหรับสลายไขมัน ลดเซลลูไลท์ ลดสัดส่วนบริเวณต้นขา หน้าท้อง สะโพกและแขน
 - F–contour / FC (RF+Vaccum) ใช้สำหรับสลายไขมันบริเวณที่มีขนาดเล็กและไวต่อความรู้สึก (sensitive area) บริเวณ คาง ลำคอ ต้นแขน และต้นข้านใน
 - Skin tightening / ST (RF) ใช้สำหรับผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ บริเวณใบหน้าและลำตัว มีระบบทำความเย็นที่หัว
 
ข้อดีของ Viora reaction
- สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ ยกกระชับผิวได้ในคราวเดียวกัน
 - สามารถลดเลือนริ้วรอยได้ดี เช่น รอยรอบดวงตา รอบขอบปาก ร่องแก้ม
 - สามารถควบคุมพลังงานได้ตรงตามปัญหาของแต่ละบุคคล
 - ไม่มีผลข้างเคียงทั้งระยะสั้นและระยะยาว
 - สามารถทำได้ทุกสีผิว
 - ผู้รับบริการจะได้รับความรู้สึกคล้ายถูกนวดและอุ่นๆ ที่ผิวหนัง
 - ไม่เกิดบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
 
Viora reaction เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวรอบดวงตา ผิวหน้า แขน ขา และลำตัว
 - ลดไขมันส่วนเกิน กระชับสัดส่วน
 - ลดปัญหาเซลลูไลท์
 - ลดเลือนริ้วรอยบริเวณใบหน้า
 - คนที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
 
ขั้นตอนการทำ Viora reaction
- เช็ดเพื่อทำความสะอาดผิวในบริเวณดังกล่าว
 - ทาเจลเย็น (สำหรับ ST) หรือ กลีเซอลีน (สำหรับ FC หรือ BC)
 - ทำเลเซอร์บริเวณที่ต้องการ
- สำหรับ ST หัวมีระบบทำความเย็นพร้อมกับการทำเลเซอร์ไปควบคู่กันป้องกันอาการเจ็บหรือรู้สึกแสบร้อน
 - สำหรับ FC หรือ BC หัวมีระบบดูดสุญญากาศ
 
 - เมื่อทำจนทั่วบริเวณแล้ว เช็ดเจลและทำความสะอาดผิว
 - ทาเจลว่านหางจระเข้และครีมเพื่อเป็นการลดการอักเสบและระคายเคืองจากเลเซอร์
 
ระยะเวลาและความถี่ในการทำ Viora reaction
- ครั้งละ 15–30 นาที ขึ้นกับบริเวณที่ทำ
 - Skin tightening แนะนำรักษา 2–4 สัปดาห์ครั้ง ติดต่อกัน 6–8 ครั้ง และ รักษาต่อเนื่องเพื่อคงผลการรักษาทุก 3–6 เดือน
 - Facial and body contour แนะนำรักษาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 6–8 ครั้ง และ รักษาต่อเนื่องเพื่อคงผลการรักษาทุก 1–3 เดือน
 
ผลลัพธ์ของการทำ Viora reaction
- โดยผลลัพธ์หลังทำครั้งแรกจะสังเกตได้ว่าผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น เซลลูไลท์ลดลง
 - ผลการรักษาจะเริ่มเห็นผลชัดเจน เมื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 3–4 ครั้ง ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 
- ไม่เกิดบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
 
การดูแลหลังทำ Viora reaction
- ทาครีมบำรุงผิวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความร้อนจากการรักษาทำให้ผิวแห้งขึ้น
 - ดื่มน้ำวันละ 8–10 แก้ว เพื่อช่วยในการขับของเสีย
 
ข้อห้ามในการทำ Viora reaction
- ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร อันนี้ห้ามเป็นสากล ทำได้หลังคลอด 3 เดือน
 - ประวัติ ผิวไหม้แดดง่าย ทา suntan บริเวณที่จะทำ
 - กินยา gold sodium thiomalate รักษา โรคข้อ หรือยาที่ทำให้ไวต่อแสง
 - มีโรคทางผิวหนัง เช่น มะเร็งผิวหนัง สะเก็ดเงิน ผื่นผิวหนังอักเสบ เริม หรือ แผลเปิด หรือแผลเป็น keloid บริเวณที่ทำ
 - ผู้ป่วยที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณตำแหน่งที่จะทำการรักษา
 - ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
 - ผู้ที่มีประวัติการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เลือดออกง่ายหรือ ผิวลอกง่าย
 - ผู้ที่มีประวัติของโรคที่สามารถถูกกระตุ้นอาการได้ด้วยความร้อน ได้แก่ SLE
 
ผลข้างเคียงของการทำ Viora reaction
- ผิวอักเสบ แดง ซึ่งอาการมักหายไปภายใน 1–2 ชั่วโมง