เทคโนโลยีกระชับผิวหน้าและสลายไขมันใต้ชั้นผิว โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง เรียกว่า MMFU: Micro & Macro Focused Ultrasound เป็น 3rd Generation ของ Focused Ultrasound มีความเสถียรของการปล่อยพลังงานและสามารถปล่อยพลังงาน แบบ High peak power ด้วยเทคโนโลยี Dual engine โดยพลังงานที่ถูกปล่อยในแต่ละจุดมีความเท่าๆกันและมีความสม่ำเสมอของพลังงานที่ลงสู่ใต้ผิวทุกจุด และลงลึกได้ถึง ตำแหน่งที่ต้องการทำการรักษาได้อย่างจำเพาะเจาะจง (Selective delivery of acoustic energy depth)

ความสามารถของ Ultraformer III

  • 1.5 mm. ลงลึกในระดับชั้น Epidermis / Dermis ช่วยลดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยบริเวณเล็กๆ พร้อมช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง

  • 2.0 mm. ลงลึกในระดับชั้น Epidermis / Dermis ช่วยลดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยบริเวณเล็กๆ พร้อมช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง

  • 3.0 mm. ลงลึกในระดับชั้น Deep dermis / Subcutaneous tissue ที่มีคอลลาเจน และอีลาสตินสูง ทำให้ผิวแน่น เฟิร์ม จากการกระตุ้นในเกิด collagen remodeling พร้อมกระชับรูขุมขน

  • 4.5 mm. ลงลึกในระดับชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ช่วยยกกระชับผิว และยกกรอบหน้าให้ชัดขึ้น

  • 6.0 mm. ลงลึกในระดับชั้นไขมัน ช่วยสลายไขมันบริเวณแก้มและเหนียงใต้คาง

  • 9.0 mm./ 13.0 mm. ลงลึกในระดับชั้นไขมัน ช่วยสลายไขมันบริเวณลำตัว แขนขา

Ultraformer 3

รูปภาพจาก Ultraformer.com

ใช้หลักการ Hyperthermia Lifting Therapy โดยการส่งผ่านพลังงานแบบจุด Micro & Macro Focused Ultrasound ลงไปใต้ผิวหนังตามตำแหน่งความลึกที่ต้องการ เกิดเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ระดับ 65-75 องศาเซลเซียส ที่มีระยะห่างระหว่างจุดเท่าๆ กัน 0.5-2 มม. ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อบริเวณที่ต้องการรักษา

และกระตุ้น Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์หลักที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยให้มีการกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้เกิดการยกกระชับผิว (Tissue lifting) ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดริ้วรอย โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวบริเวณข้างเคียง

Micro Focused Ultrasound เกิดเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ระดับ 65-70 องศาเซลเซียส ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 มิลลิเมตร ที่ระดับความลึก 1.5 mm./ 3 mm./ 4.5 mm

Macro Focused Ultrasound เกิดเป็น Macro Thermal Focused ระดับ 65-70 องศาเซลเซียส ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ 1 มิลลิเมตร ซึ่งมีพลังงานได้สูงกว่า Micro Focused Ultrasound ถึง 8 เท่า

Ultraformer III เป็นที่ยอมรับกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจาก องค์การอาหารและ ยาของ ประเทศยุโรป (European CE) ประเทศออสเตรเรีย (Australian TGA) ประเทศใต้หวัน (Taiwan FDA) ประเทศญี่ปุ่น (Japan FDA) ประเทศเกาหลี (Korea FDA) และ ประเทศไทย เป็นต้น

Ultraformer III เหมาะกับผู้มีปัญหาดังต่อไปนี้

  • คิ้วตก หนังตาตก ขอบตาล่างหย่อนยาน
  • ผิวหนังใบหน้าและลำคอหย่อนคล้อย
  • ผิวแก้มไม่กระชับ
  • มีแก้มหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก และ มุมปากตก
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว เล็ก ได้สัดส่วน
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างผิว กระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน

ผลลัพธ์ของ Ultraformer III

  • ผลการยกกระชับทันทีหลังทำ ประมาณ 20-30% หลังจากนั้นสภาพผิวจะดีขึ้นเนื่องจากเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เห็นผลเต็มที่ที่ 3 เดือน หลังจากการรักษา
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ขั้นตอนการทำ Ultraformer III

  • เช็ดเพื่อทำความสะอาดผิวในบริเวณที่รักษา
  • ทาเจลเย็นในบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์ให้ครอบคลุม
  • ทำการรักษาด้วยเลเซอร์ เมื่อปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์ MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ลงสู่ เนื้อเยื่อใต้ผิว คนไข้จะรู้สึกเหมือนมีหนามเล็ก ๆ แทงลงบนผิวลึก ๆ และจะรู้สึกอุ่น ๆ ที่ใต้ผิวหนัง ซึ่งความรู้สึกนี้ จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
  • เมื่อทำจนทั่วบริเวณแล้ว เช็ดเจลและทำความสะอาดผิว
  • ทาเจลว่านหางจระเข้และครีมเพื่อเป็นการลดการอักเสบและระคายเคืองจากเลเซอร์

ระยะเวลาและความถี่ในการทำ Ultraformer III

  • การยกกระชับหน้าหรือคอ ใช้เวลาประมาณ 15 –20 นาที
  • สลายไขมันหรือกระชับสัดส่วนที่ตัว ใช้เวลาประมาณ 40 –60 นาที
  • Skin toning (2.0 mm) แนะนำรักษา 2 สัปดาห์ครั้ง ติดต่อกัน 3-4 ครั้ง และ รักษาต่อเนื่องเพื่อคงผลการรักษาทุก 36 เดือน
  • Facial lifting แนะนำรักษาต่อเนื่องเพื่อคงผลการรักษาทุก 3-6 เดือน

การดูแลหลังทำ Ultraformer III

  • ไม่เกิดบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • หลังการรักษาในบางรายอาจมีผิวแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็จะหายไปเองภายในไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง
  • ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ (ควรหลีกเลี่ยงการล้างด้วยน้ำร้อน)
  • ควรหลีกเลี่ยงสัมผัสอากาศร้อนหรือเย็นจัดเป็นเวลานานๆ และควรปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด ที่มี SPF มากกว่า 30++ ทุกครั้ง

ข้อห้ามในการทำ Ultraformer III

  • บุคคลที่ผิดปกติในการรับความรู้สึกร้อนเย็น
  • บุคคลที่มีบาดแผลบนใบหน้าหรือแผลเปิด
  • บุคคลที่มีสิวที่รุนแรงหรือเรื้อรังบนใบหน้าหรือลำคอ
  • บุคคลที่มีมีขดลวดโลหะ หรือการปลูกถ่ายในใบหน้าหรือ ลำคอ
  • บุคคลที่มี Bio absorbable รากฟันเทียม
  • บุคคลที่มีมีการฝังอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคภายในร่างกาย
  • บุคคลที่มีโรคผิวหนังบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ รักษาบาดแผล

ข้อควรระวังในการทำ Ultraformer III ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • เด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัสเริม
  • ผู้ป่วยที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด/ยาต้านการจับตัว เป็นก้อนของเลือด (anticoagulant)
  • ผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง
  • ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบหลอดเลือด หรือการแข็งตัวของเลือด
  • บุคคลที่มีการฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าให้จังหวะหัวใจ (Pacemaker)
  • บุคคลที่มีโรคประจำตัว โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิต ที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้
  • บุคคลที่มีความผิดปกติของการรับรู้ความรู้สึก
  • บุคคลที่เคยได้รับอุบัติเหตุและมีการฝังเหล็ก หรือโลหะในบริเวณที่จะทำ
  • บุคคลที่มีการอักเสบ ติดเชื้อบริเวณที่ทำ หรือบริเวณใกล้เคียง
  • บุคคลที่มีการร้อยไหมที่เป็นโลหะ เช่น ไหมทองคำ
  • บุคคลที่เคยได้รับการผ่าตัดบริเวณใบหน้า ควรเว้นระยะอย่างน้อย 6 เดือน –1 ปี
  • ในกรณีที่มีการร้อยไหมแบบชนิดละลาย ควรเว้นระยะในการทำอย่างน้อย 3 เดือน
  • ในกรณีที่มีการฉีดสารลดเลือนริ้วรอย (Botulinum toxin) และกลุ่มสารเติมเต็ม (Filler) ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป
  • ควรงดการทำการรักษาด้วยเลเซอร์หรือ เทคโนโลยีอื่นที่เพิ่มความร้อนสูงลงสู่ใต้ชั้นผิว

ผลข้างเคียงของการทำ Ultraformer III

  • Edema (บวม): บริเวณที่ได้รับการรักษา ซึ่งอาการจะหายภายใน 1 สัปดาห์
  • Erythema (ผื่นแดง): บริเวณที่ได้รับการรักษา ซึ่งอาการจะหายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
  • Tenderness (จุดเจ็บ): อาจจะมีจุดที่สัมผัสแล้วมีอาการเจ็บ อาการเหล่านี้จะหายภายใน 2 สัปดาห์
  • Bruising (ช้ำ): การช้ำเล็กน้อยที่อาจเกิดได้จากความเสียหายที่เกิดบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน หรือหลอดเลือด ซึ่งอาจเกิดขึ้น เป็นครั้งคราวและดีขึ้นภายใน 2 ~ 3 สัปดาห์
  • Lump (ก้อนบวม, ก้อนนูน): มีสาเหตุมาจากการใช้พลังงานที่อาจจะสูงเกินไป และจะดีขึ้นหรือหาย ภายใน 2 สัปดาห์
  • Pain (ความเจ็บปวด): อาการเหล่านี้จะดีขึ้น และหายภายใน 2 วัน
  • จากงานวิจัยไม่พบการบาดเจ็บของเส้นประสาทอย่างถาวร