เทคโนโลยีกระชับผิวหน้าและสลายไขมันใต้ชั้นผิว โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง เรียกว่า MMFU: Micro & Macro Focused Ultrasound เป็น 3rd Generation ของ Focused Ultrasound มีความเสถียรของการปล่อยพลังงานและสามารถปล่อยพลังงาน แบบ High peak power ด้วยเทคโนโลยี Dual engine โดยพลังงานที่ถูกปล่อยในแต่ละจุดมีความเท่าๆกันและมีความสม่ำเสมอของพลังงานที่ลงสู่ใต้ผิวทุกจุด และลงลึกได้ถึง ตำแหน่งที่ต้องการทำการรักษาได้อย่างจำเพาะเจาะจง (Selective delivery of acoustic energy depth)
Ultraformer III (เลือกอ่านได้)
- ความสามารถของ Ultraformer III
 - Ultraformer III เหมาะกับผู้มีปัญหาดังต่อไปนี้
 - ผลลัพธ์ของ Ultraformer III
 - ขั้นตอนการทำ Ultraformer III
 - ระยะเวลาและความถี่ในการทำ Ultraformer III
 - การดูแลหลังทำ Ultraformer III
 - ข้อห้ามในการทำ Ultraformer III
 - ข้อควรระวังในการทำ Ultraformer III ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
 - ผลข้างเคียงของการทำ Ultraformer III
 
ความสามารถของ Ultraformer III
- 
1.5 mm. ลงลึกในระดับชั้น Epidermis / Dermis ช่วยลดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยบริเวณเล็กๆ พร้อมช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
 - 
2.0 mm. ลงลึกในระดับชั้น Epidermis / Dermis ช่วยลดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยบริเวณเล็กๆ พร้อมช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง
 - 
3.0 mm. ลงลึกในระดับชั้น Deep dermis / Subcutaneous tissue ที่มีคอลลาเจน และอีลาสตินสูง ทำให้ผิวแน่น เฟิร์ม จากการกระตุ้นในเกิด collagen remodeling พร้อมกระชับรูขุมขน
 - 
4.5 mm. ลงลึกในระดับชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ช่วยยกกระชับผิว และยกกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
 - 
6.0 mm. ลงลึกในระดับชั้นไขมัน ช่วยสลายไขมันบริเวณแก้มและเหนียงใต้คาง
 - 
9.0 mm./ 13.0 mm. ลงลึกในระดับชั้นไขมัน ช่วยสลายไขมันบริเวณลำตัว แขนขา
 
			รูปภาพจาก Ultraformer.com
ใช้หลักการ Hyperthermia Lifting Therapy โดยการส่งผ่านพลังงานแบบจุด Micro & Macro Focused Ultrasound ลงไปใต้ผิวหนังตามตำแหน่งความลึกที่ต้องการ เกิดเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ระดับ 65-75 องศาเซลเซียส ที่มีระยะห่างระหว่างจุดเท่าๆ กัน 0.5-2 มม. ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อบริเวณที่ต้องการรักษา
และกระตุ้น Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์หลักที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยให้มีการกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้เกิดการยกกระชับผิว (Tissue lifting) ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและลดริ้วรอย โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวบริเวณข้างเคียง
Micro Focused Ultrasound เกิดเป็นความร้อนจุดเล็กๆ ระดับ 65-70 องศาเซลเซียส ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 มิลลิเมตร ที่ระดับความลึก 1.5 mm./ 3 mm./ 4.5 mm
Macro Focused Ultrasound เกิดเป็น Macro Thermal Focused ระดับ 65-70 องศาเซลเซียส ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ 1 มิลลิเมตร ซึ่งมีพลังงานได้สูงกว่า Micro Focused Ultrasound ถึง 8 เท่า
Ultraformer III เป็นที่ยอมรับกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจาก องค์การอาหารและ ยาของ ประเทศยุโรป (European CE) ประเทศออสเตรเรีย (Australian TGA) ประเทศใต้หวัน (Taiwan FDA) ประเทศญี่ปุ่น (Japan FDA) ประเทศเกาหลี (Korea FDA) และ ประเทศไทย เป็นต้น
Ultraformer III เหมาะกับผู้มีปัญหาดังต่อไปนี้
- คิ้วตก หนังตาตก ขอบตาล่างหย่อนยาน
 - ผิวหนังใบหน้าและลำคอหย่อนคล้อย
 - ผิวแก้มไม่กระชับ
 - มีแก้มหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก และ มุมปากตก
 - ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว เล็ก ได้สัดส่วน
 - ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างผิว กระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน
 
ผลลัพธ์ของ Ultraformer III
- ผลการยกกระชับทันทีหลังทำ ประมาณ 20-30% หลังจากนั้นสภาพผิวจะดีขึ้นเนื่องจากเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เห็นผลเต็มที่ที่ 3 เดือน หลังจากการรักษา
 - ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
 
ขั้นตอนการทำ Ultraformer III
- เช็ดเพื่อทำความสะอาดผิวในบริเวณที่รักษา
 - ทาเจลเย็นในบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์ให้ครอบคลุม
 - ทำการรักษาด้วยเลเซอร์ เมื่อปล่อยคลื่นอัลตร้าซาวด์ MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ลงสู่ เนื้อเยื่อใต้ผิว คนไข้จะรู้สึกเหมือนมีหนามเล็ก ๆ แทงลงบนผิวลึก ๆ และจะรู้สึกอุ่น ๆ ที่ใต้ผิวหนัง ซึ่งความรู้สึกนี้ จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
 - เมื่อทำจนทั่วบริเวณแล้ว เช็ดเจลและทำความสะอาดผิว
 - ทาเจลว่านหางจระเข้และครีมเพื่อเป็นการลดการอักเสบและระคายเคืองจากเลเซอร์
 
ระยะเวลาและความถี่ในการทำ Ultraformer III
- การยกกระชับหน้าหรือคอ ใช้เวลาประมาณ 15 –20 นาที
 - สลายไขมันหรือกระชับสัดส่วนที่ตัว ใช้เวลาประมาณ 40 –60 นาที
 - Skin toning (2.0 mm) แนะนำรักษา 2 สัปดาห์ครั้ง ติดต่อกัน 3-4 ครั้ง และ รักษาต่อเนื่องเพื่อคงผลการรักษาทุก 3–6 เดือน
 - Facial lifting แนะนำรักษาต่อเนื่องเพื่อคงผลการรักษาทุก 3-6 เดือน
 
การดูแลหลังทำ Ultraformer III
- ไม่เกิดบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
 - หลังการรักษาในบางรายอาจมีผิวแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็จะหายไปเองภายในไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง
 - ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ (ควรหลีกเลี่ยงการล้างด้วยน้ำร้อน)
 - ควรหลีกเลี่ยงสัมผัสอากาศร้อนหรือเย็นจัดเป็นเวลานานๆ และควรปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด ที่มี SPF มากกว่า 30++ ทุกครั้ง
 
ข้อห้ามในการทำ Ultraformer III
- บุคคลที่ผิดปกติในการรับความรู้สึกร้อนเย็น
 - บุคคลที่มีบาดแผลบนใบหน้าหรือแผลเปิด
 - บุคคลที่มีสิวที่รุนแรงหรือเรื้อรังบนใบหน้าหรือลำคอ
 - บุคคลที่มีมีขดลวดโลหะ หรือการปลูกถ่ายในใบหน้าหรือ ลำคอ
 - บุคคลที่มี Bio absorbable รากฟันเทียม
 - บุคคลที่มีมีการฝังอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคภายในร่างกาย
 - บุคคลที่มีโรคผิวหนังบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ รักษาบาดแผล
 
ข้อควรระวังในการทำ Ultraformer III ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
 - เด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี
 - ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัสเริม
 - ผู้ป่วยที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด/ยาต้านการจับตัว เป็นก้อนของเลือด (anticoagulant)
 - ผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง
 - ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบหลอดเลือด หรือการแข็งตัวของเลือด
 - บุคคลที่มีการฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าให้จังหวะหัวใจ (Pacemaker)
 - บุคคลที่มีโรคประจำตัว โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิต ที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้
 - บุคคลที่มีความผิดปกติของการรับรู้ความรู้สึก
 - บุคคลที่เคยได้รับอุบัติเหตุและมีการฝังเหล็ก หรือโลหะในบริเวณที่จะทำ
 - บุคคลที่มีการอักเสบ ติดเชื้อบริเวณที่ทำ หรือบริเวณใกล้เคียง
 - บุคคลที่มีการร้อยไหมที่เป็นโลหะ เช่น ไหมทองคำ
 - บุคคลที่เคยได้รับการผ่าตัดบริเวณใบหน้า ควรเว้นระยะอย่างน้อย 6 เดือน –1 ปี
 - ในกรณีที่มีการร้อยไหมแบบชนิดละลาย ควรเว้นระยะในการทำอย่างน้อย 3 เดือน
 - ในกรณีที่มีการฉีดสารลดเลือนริ้วรอย (Botulinum toxin) และกลุ่มสารเติมเต็ม (Filler) ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป
 - ควรงดการทำการรักษาด้วยเลเซอร์หรือ เทคโนโลยีอื่นที่เพิ่มความร้อนสูงลงสู่ใต้ชั้นผิว
 
ผลข้างเคียงของการทำ Ultraformer III
- Edema (บวม): บริเวณที่ได้รับการรักษา ซึ่งอาการจะหายภายใน 1 สัปดาห์
 - Erythema (ผื่นแดง): บริเวณที่ได้รับการรักษา ซึ่งอาการจะหายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
 - Tenderness (จุดเจ็บ): อาจจะมีจุดที่สัมผัสแล้วมีอาการเจ็บ อาการเหล่านี้จะหายภายใน 2 สัปดาห์
 - Bruising (ช้ำ): การช้ำเล็กน้อยที่อาจเกิดได้จากความเสียหายที่เกิดบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน หรือหลอดเลือด ซึ่งอาจเกิดขึ้น เป็นครั้งคราวและดีขึ้นภายใน 2 ~ 3 สัปดาห์
 - Lump (ก้อนบวม, ก้อนนูน): มีสาเหตุมาจากการใช้พลังงานที่อาจจะสูงเกินไป และจะดีขึ้นหรือหาย ภายใน 2 สัปดาห์
 - Pain (ความเจ็บปวด): อาการเหล่านี้จะดีขึ้น และหายภายใน 2 วัน
 - จากงานวิจัยไม่พบการบาดเจ็บของเส้นประสาทอย่างถาวร
 
				
												



